รู้จักอาการ “ผิวเครียด” เมื่อผิวก็เครียดได้ ควรแก้อย่างไรดีนะ?
เป็นอีกหนึ่งเรื่องใกล้ตัวเกี่ยวกับผิวที่น้อยคนมักจะรู้ ว่า “ความเครียด” ของคนเราไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เพียงสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังทำให้สุขภาพผิวมีปัญหาอีกด้วย ลองสังเกตดูถึงในช่วงเวลาที่เครียดมากๆ นั้น จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับผิวขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เครียดแล้วสิวขึ้น,
มีผื่นแดง, ผิวหมองคล้ำหรือเกิดริ้วรอยต่างๆ เป็นต้นซึ่งทั้งหมดนี้ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุเช่นกัน แล้วผิวเครียดคืออะไร มีอาการอย่างไรบ้างเราไปทำความรู้จักเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับดูแลตัวเองกัน ทำความรู้จัก “ผิวเครียด” อาการ “ผิวเครียด” เป็นโรคทางจิตวิทยาชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า “Psychodermatology” โดยมีสาเหตุเกิดจากความเครียดหรือสภาวะทางจิตใจของคนที่จะส่งผลไปยังสภาพของผิวพรรณ ความเครียดจะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนบางชนิดออกมาในปริมาณที่มากกว่าปกติและนี่เองที่จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานของร่างกายที่เสียสม
ดุล นั่นรวมถึงไป ผิวพรรณ ที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล
ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดที่จะส่งผลให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ต่ำลงและเสี่ยงต่อผิว
พรรณมที่ระคายเคืองได้ง่าย เป็นผื่น ติดเชื้อและเป็นสิว เป็นต้นนอกจากนี้ยังเข้าไปยังยั้งการทำงานของระบบโกรทฮอร์โมทส่งผลให้ผิวพรรณเกิดริ้วรอยและแห้งกร้าน รวมถึงยังกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดสีที่ส่งผลให้หน้าหมองคล้ำหรือมีปัญหาฝ้าและกระเกิดขึ้นนั่นเอง อาการของ “ผิวเครียด” ปัญหาผิวที่เกิดจากความเครียด หลังจากที่ได้ทำความรู้จักว่าผิวเครียดคืออะไรแล้ว
มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการผิวเครียดที่ถ้าหากว่าร่างกายของคุณเครียดมากๆ
จะเกิดอาการและปัญหาผิวอะไรบ้าง โดยเราแบ่งปัญหาผิวเครียดออกเป็น 5 รูปแบบได้แก่
1. ผิวแพ้และอักเสบง่าย
เมื่อเรามีอาการวิตกกังวล เกิดความเครียด จะทำให้ผิวพรรณมีอาการอักเสบได้ง่าย ผิวระคายเคืองและแพ้ได้ง่าย อันเนื่องมาจากการหลั่งของฮอร์โมทอะดรีนาลีนที่มากจนทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
2. ผิวหมองคล้ำ ไวต่อแสงแดด
ความเครียดส่งผลต่อกระบวนการผลิตเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำ มีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
และเสี่ยงต่อปัญหาผิวต่างๆ เช่น ฝ้า และ กระ นั่นเอง
3. รูขุมขนอุดตัน หน้าเป็นสิว
ความเครียดจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้มีการผลิตไขมันในปริมาณที่มาก เมื่อไขมันผสมกับเซลล์ผิวที่เสื่อมสลายและแบคทีเรียก็จะทำให้เกิดปัญหารูขุมขนอุดตัน จนนำมาซึ่งใบหน้าเป็นสิวนั่นเอง
4. ผิวมีริ้วรอย หย่อนคล้อย
ความเครียดจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบโกรทฮอร์โมทและกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนแห่งความเครียดที่ทำลายคอลลาเจนของผิวทำให้ใบหน้าแห้งกร้าน มีริ้วรอยแห่งวัยและหย่อนคล้อย
5. ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
ความเครียดยังส่งผลกระทบไปยังฮอร์โมนคอร์ติซอลที่จะเข้าไปทำลายภูมิต้านทานของผิว
นอกจากจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นสิวได้ง่ายแล้ว ยังทำให้ผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น ผิวลอกอีกด้วย
สำหรับวิธีการรักษาและป้องกัน “ผิวเครียด” ก็สามารถทำได้หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกสมาธิ หมั่นออกกำลังกาย การรับประทานคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูการทำงานของร่างกายระบบประสาทและผิวพรรณ รวมถึงการหากิจกรรมผ่อนคลายก็สามารถช่วยได้เช่นกัน